กระดาษคราฟท์

(Kraft Paper)

กระดาษคราฟท์ (Kraft Paper)

กระดาษคราฟท์หนา 125 แกรมต่อตารางเมตร ใช้เป็นกระดาษห่อสินค้ากันแตก, กระดาษปูพื้นรถยนต์ และอื่นๆ กระดาษคุณภาพดี ไม่เปื่อย ยุ่ยง่าย และไร้กลิ่น สินค้าสั่งผลิตระยะเวลา 3-5 วัน

สินค้าเพิ่มเติม

กระดาษคราฟท์ คืออะไร

กระดาษคราฟท์ (Kraft Paper) คือ กระดาษที่ผลิตมาจากเยื่อเคมี (Chemical Pulp) จากกระบวนการคราฟท์ (Kraft Process) เป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อแปรสภาพจากเนื้อไม้มาเป็นเยื่อกระดาษไม้ (Wood Pulp) วิธีการนั้นจะใช้ทั้งสารเคมี และความร้อนเพื่อทำการแยกเยื่อไม้ เราเรียกวิธีการนี้ว่าการกระบวนการคราฟท์ ซึ่งจะทำให้ได้กระดาษที่มีความแข็งแรง คงทน และมีความเหนียวสูง โดยทั่วไปกระดาษคราฟท์ จะมีสีตามเนื้อไม้ที่นำมาใช้ ซึ่งหากต้องการสีที่แตกต่างสามารถนำกระดาษมาฟอกสีขาวก่อนได้ นอกเหนือจากนี้กระดาษคราฟท์ยังมีคุณสมบัติที่ดีกว่ากระดาษชนิดอื่นๆ ในหลายๆด้าน เช่น ความแข็งแรงทีมากกว่า สามารถค้านทานการเปียกจากน้ำได้ดีกว่า ทั้งยังสามารถต้านทานการเสียดสี การเจาะทะลุ เนื้อกระดาษมีความเรียบ ช่วยให้สามารถนำไปใช้กับงานพิมพ์ต่างๆได้สวยกว่ากระดาษชนิดอื่นๆ กระดาษคราฟท์ นอกจากมีคุณสมบัติ ที่เหมาะสมจะทำเป็นบรรจุภัณฑ์ มากมายแล้วนั้น ยังมีข้อดีอีกข้อที่เป็นส่วนช่วยให้คนหันมาสนใจ และเลือกใช้กระดาษชนิดสูงขึ้นนั่คือ การช่วยลดปัญหาด้านมลพิษด้านสภาวะแวดล้อมนั่นเอง หรือหากพูดให้เข้าใจง่ายๆ กระดาษคราฟท์ เป็นวัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิล (recycle) และนำมาใช้ใหม่ได้ ทำให้ไม่ก่อปัญหาขยะส่วนเกินเพิ่ม เหมื่อนบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ เช่น พลาสติก โฟมเป็นต้น ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ กระดาษคราฟท์ จึงนิยมนำมาใช้งานทั้งในด้านอุตสาหกรรม และการขนส่งต่างๆ

ประเภทของกระดาษคราฟท์

กระดาษคราฟท์ ถูกสร้างขึ้นมาหลากหลายชนิด และมีคุุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เพราะถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะนำกระดาษไปใช้งานเป็นบรรจุภัณฑ์ แต่ก็มีพัสดุ หรือสินค้าที่ต้องการใส่ลงไปแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นการที่จะให้ใช้กระดาษที่มีเพียงอย่างเดียว หรือขนาดเดียวคงไม่สามารถที่จะนำไปใช้กับทุกๆพัสดุได้ ทั้งยั้งมีหลายๆท่านที่ต้องการนำกระดาษคราฟท์ไปใช้เพื่อการอีกด้วย นี่จึงเป็นเหตุให้กระดาษคราฟท์มีหลากหลายชนิดให้เลือกสรรค์ เพื่อให้ท่านได้เลือกหามาใช้ได้ตรงตามความต้องการ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

กระดาษคราฟท์สีขาว KW

กระดาษคราฟท์ KW มีสีผิวขาว เหมาะเป็นบรรจุภัณฑ์ ที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศา และยังเหมาะสำหรับงานพิมพ์ต่างๆ เนื่องจากพื้นผิวมีความเรียบ สวย นิยมใส่พัสดุ เช่น กล่องของเล่น หุ่นฟิคเกอร์ ไปจนถึงเครื่องสำอางชนิดต่างๆ (น้ำหนักมาตราฐาน :170g. กรัม/ตารางเมตร)

กระดาษคราฟท์สีเหลืองทอง KA

กระดาษคราฟท์ KA มีสีผิวเหลือทอง มีคุณสมบัติสามารถทนต่อความชื้นได้ดี ทั้งยังสามารถพิมพ์งานลวดลายต่างๆได้สวย ทนทาน รับน้ำหนักได้มาก นิยมใช้งานกับพัสดุจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ( น้ำหนักมาตราฐาน : 125, 150, 185, 230 กรัม/ตารางเมตร )

กระดาษคราฟท์สีเหลืองอ่อนธรรมชาติ KI

กระดาษคราฟท์ KI มีสีผิวเหลืองอ่อนธรรมชาติ เป็นกระดาษที่มีความสามารถในการจัดเรียง วางซ้อนได้ง่าย และยังทนต่อความชื้นของอากาศได้ นิยมนำไปใช้กับพัสดุขนาดเล็กที่ไม่เน้นด้านความแข็งแรงมากนัก เช่น สร้อย พวงกุนแจ เคสโทรศัพท์เป็นต้น ( น้ำหนักมาตราฐาน : 125, 150, 185 กรัม/ตารางเมตร )

ค่าความแข็งแรงของกระดาษแต่ละชนิด (Kraft Liner Board Specification)

เกรดกระดาษ
(Paper Grade)
น้ำหนัก / กรัม
(Basic Weight)
ค่าแรงกดวงแหวน
(Ring Crush)
ค่าความต้านทานแรงทะลุ
(Bursting strength)
ระดับความชื้น
(Moisture)
KA125 125 160-170 390-400 6-9
KA150 150 210-220 460-490 6-9
KA185 185 280-300 520-560 6-9
KA230 230 380-410 640-680 6-9
KI125 125 125-155 300-350 6-9
KI150 150 170-200 370-440 6-9
KI185 185 230-260 460-540 6-9
KP175 175 210 410 6-9
KP275 275 345 600 6-9
KT125 125 140 275 6-9
KT150 150 190 350 6-9
TA125 125 150-155 275-320 6-9
TA150 150 200-215 350-375 6-9

กระดาษคราฟท์ใช้ผลิตเป็นอะไรได้บ้าง ?

ในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาเพื่อนำมาทนแทนการใช้พลาสติก และปัญหาขยะต่างๆ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของกระดาษคราฟท์นั้นจะไม่ตายตัว โดยสามารถนำไปดัดแปลง พับ ตัด หรือติดปะเข้ากับสิ่งไหนก็ได้ ซึ่งทำให้ตัวของกระดาษนั้นมีความหลากหลายในการนำไปใช้งาน เช่น กล่องใส่อาหาร กระดาษห่อของขวัญ ที่คั่นหนังสือ ปกสมุด ป้ายแท็กสินค้า ถุงกระดาษคราฟท์ ที่ครอบแก้วกาแฟ ไปจนกระทั่งงานฝีมือต่างๆ อีกมากมาย

ข้อดีกระดาษคราฟท์ (Kraft Paper)

ตอนนี้หลายๆท่านคงทราบกันแล้วว่ากระดาษคราฟท์ มีประเภทอะไรกันบ้างและนำไปใช้เป็นอะไรได้บ้าง สุดท้ายนี้ผมจึงอยากจะขอสรุป ถึงข้อดี-ข้อเสีย ของกระดาษคราฟท์ ให้ได้รู้กัน ดังนี้ ข้อดีกระดาษคราฟท์

  • มีความแข็งแรง ทนทานสูง เหมาะแกนำไปใช้เป็นบรรจุภัณฑ์
  • กระดาษมีน้ำหนักที่เบา แต่สามารถรองรับสิ่งของหนักๆได้
  • พื้นผิวเรียบ จึงทำให้เหมาะแก่การงานพิมพ์ ช่วยเพิ่มความสวยงาม และโฆณาให้กับแบรนด์
  • สามารถนำกลับมารีไซเคิล ใช้งานได้ใหม่ ช่วยลดปัญหามลภาวะจากขยะ
  • สามารถดัดแปลง และใช้งานได้หลากหลาย
  • มีราคาถูก ช่วยลดต้นทุนให้กับบริษัทได้